แรงบันดาลใจที่ให้ลูกเล่นเทนนิส

กล่าวนำ ผมตั้งใจว่าจะเขียนบทความเกี่ยวกับการเล่นเทนนิสของลูกๆ ทางบล็อก เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ระหว่างผู้เล่น ผู้ปกครอง ผู้ฝึกสอน หรือกลุ่มคนที่สนใจเรื่องเดียวกัน โดยตั้งใจว่าจะเริ่มต้น หากลูกเริ่มชนะหรือได้แชมป์แรก ของการแข่งขันรายการใดๆ รายการหนึ่ง ในที่สุดเวลาของการรอคอย (อย่างจดจ่อ) เกือบปี ลูกชายคนเล็กสุด ก็ทำให้ผมต้องเริ่มต้นเขียนบทความบนบล็อกเล็กๆ แห่งนี้ เพื่อถ่ายทอดเรื่องราวการฝึกซ้อม การเรียนและการแข่งขันของเขา ผ่านโลกไซเบอร์ ออนไลน์แห่งนี้ (นึกว่าจะไม่มีวันนี้ซะแล้ว 55++)

สำหรับแรงบันดาลใจของผมแล้ว ผมถือว่าเป็นสิ่งสำคัญ หากจะบอกว่าไม่มีก็คงจะเป็นการพูดปดเป็นแน่ แต่ก็มีบ้างที่ไม่อยากกล่าวถึงมัน เรียกได้ว่าเก็บๆ ไว้ภายในนิดหนึ่งละกัน แต่หลักๆ แล้ว ก็คงจะมีสาเหตุมาจากความชอบส่วนตัว ในเรื่องของการกีฬา แทบจะทุกชนิด ทุกประเภท โดยเฉพาะฟุตบอล ตะกร้อ มวย เทควันโด้ และก็มาเทนนิส กี่ฬาสากลที่ว่ากันว่ายาก และเป็นกีฬาที่เล่นอยู่ในแวดวงของคนกลุ่มเล็กเท่านั้น
จุดประกายที่ติดพรึบขึ้นมาก็เพราะเรียนหลักสูตรทางทหารใน กรุงเทพฯเมื่อปี 2552 ที่ผ่านมานี้เอง ซึ่งจะมีกิจกรรมกีฬา กอลฟ์ เทนนิส แบดมินตัน ให้เลือกเล่น (บังคับ) 55 ด้วยอดีตเคยเล่น บอลและตะกร้อ ซึ่งเป็นกีฬาใช้เท้าเป็นหลัก แต่อยากจะขยับมาใช้มือแทนบ้าง ก็เลยสมัครลงชมรสเทนนิส สนามในการเรียนการฝึกก็คือ สนามเทนนิส กรมทหารสื่อสาร สะพานแดงนั้นเอง ซึ่งไม่ไกลจากโรงเรียนที่เรียนอยู่ (กรมยุทธศึกษาทหารบก ถ.เทอดดำริ) เดินเร็วๆ ก็สัก 10-15 นาทีได้
ไม้เทนนิสอันที่สอง (อันแรกยังไม่ขอพูดถึง 55) ซื้อหาจากห้าง Big C ลพบุรี เป็นไม้ Oversize ยี่ห้อ Yonex รุ่น ราคาตามป้ายบอก 1800 แต่ลดราคาเหลือ 890 พร้อม Cover และเอ็นที่แถมมาพร้อมหรือ Pre-string
อิทธิพลของภราดร คือหนึ่งเหตุผลว่าทำไมผมถึงเลือก YONEX ส่วนอย่างอื่นไม่รู้จริงๆ ไม่ว่าจะเป็นน้ำหนัก ขนาดหน้าไม้ ชนิดของเอ็น หรือวัสดุ เรียกได้ว่า ยี่ห้อนี้คงดี ถ้าไม่ดี ภราดรก็คงไม่ใช้หรอกมั้ง
วันแรกในชีวิตที่ได้ตีเทนนิสจริง ๆ ไม่รู้หรอกว่ามันเป็น FH หรือ BH แต่ก็จับไม้ตีไปตามที่ครูฝึกแนะนำ 55 ยากเหมือนกัน กับแค่ตีลูกบอลเล็กๆ ให้ข้ามตาข่ายและลงในพื้นที่ที่กำหนด ไม่เห็นง่ายเหมือนกับที่ดูเข้าตีในทีวีเลยแฮะ
เปลี่ยนทีมผู้ฝึกสอน เพราะนักเรียนตีดีเกินไป 55 จริงๆ ไม่ใช่หรอกพอดีผู้รับผิดชอบสนาม ยศพันเอก จำชื่อไม่ได้ท่านกรุณาบอกว่า ท่านรู้จักกับทีมผู้ฝึกสอนเทนนิสทีมชาติไทยชุดปัจจุบัน นำโดย โค้ชวิทยา สำเร็จ ผมเคยได้ยินแต่ชื่อ มีโอกาสได้เจอตัวจริง และได้เรียนกับโค้ช ก็ยอดเยี่ยมไปเลย โค้ชโชว์ทักษะการตีเทนนิสให้ดู โอ้โห อะไรมันจะเยี่ยมยอดปานนั้น มันดูง่ายไปหมดไม่ว่าจะตีโฟรแฮนด์ แบ็คแฮนด์ วอลเลย์ เสริฟ สแมช ฟุตเวิค โอ้ พระช่วย เนียนจริง ๆ สมกับเป็นผู้ฝึกสอนนักกีฬาเทนนิสทีมชาติไทยจริงๆ
จากนั้นได้มีโอกาสพูดคุยและถามคำถามที่สงสัยกับครูอีกหลายครั้ง ซึ่งในนั้นก็รวมถึงโอกาสในการให้ลูกทั้ง 2 คน เข้าสู่การเล่นกีฬาเทนนิสด้วย เช่นกัน
หลังจบหลักสูตรก็ต้องกลับมาประจำทำงานในจังหวัดลพบุรีเช่นเดิม โอกาสในการเล่นเทนนิสของผมยังเปิดกว้าง เพราะในค่ายก็จะมีสนามเทนนิสให้เล่นฟรีอยู่แล้ว ปกติก็จะมีกลุ่มเล็กๆ 4-5 คน หน้าเดิมๆ ที่แวะเวียนมาใช้งานสนามเทนนิส ก็เลยเป็นโอกาสดีในการฝึกลูกเล่นเทนนิสด้วยตัวเอง โดยอาศัยความรู้และประสบการณ์ ที่ได้รับระหว่างการเรียนกับโค้ชวิทยา สำเร็จ ในกรุงเทพนั้นเอง
หาอุปกรณ์ ไม้ รองเท้า เสื้อผ้า บอล (สนามมีแล้ว) ก็เจียดเงินเดือนที่พอจะมีอยู่ไม่มากในการหาอุปกรณ์ไม้ ราคาถูก จากห้าง Big C บ้าง Lotus บ้าง ราคา ไม่กี่ร้อยจนถึงพันต้นๆ ก็ควักจ่ายกันไป 55 ใจเริ่มรักกีฬาเทนนิส ทั้งที่ยังไม่รู้ประสีประสากับเกมส์เทนนิสสักเท่าไรเลย
เล่นผ่านไป สักพักหนึ่ง เป็นการเล่นตอนเย็นๆ หลักเลิกเรียน และเสาร์อาทิตย์ คำถามจากลูกๆ ก็เริ่มเกิดขึ้น ทำไมต้องเล่นเทนนิส? ใครคิดเทนนิสขึ้นมา? พ่อรู้จักเทนนิสได้อย่างไร? ทำไมพ่อถึงต้องให้หนูเล่นเทนนิส์ และ ฯลฯ จิปาถะ ก็มั่วๆ ตอบลูกเขาไปบ้าง นิ่งเงียบบ้างกับบางคำถาม
ปัจจุบันเวลาผ่านมา 1 ปี ลูกๆ ยังไม่หยุดถาม แต่คำถามเริ่มเปลี่ยนไป เสาร์อาทิตย์นี้มีแข่งไหม? เดือนนี้มีแข่งกี่ครั้ง ที่ไหน พ่อจะพาไปไหม? ทำยังงัยหนูถึงจะชนะ? และ อื่นๆ จิปาถะ แต่ส่วนมากจะเป็นเรื่องของคะแนนสะสม การแข่งขัน การฝึกซ้อม ถ้าตอบว่าพ่อทุนหมด งดแข่ง หน้าจะงอเหมือนเบ็ดเชียวละ
ปีแรกของการแข่งขันผมทำหน้าที่แบบเบ็ดเสร็จให้กับลูกๆ เป็นพ่อ (โดยตำแหน่ง) ผู้ฝึกสอน (ลูกไม่ค่อยฟัง) เป็นคนขับรถ เป็นพี่เลี้ยง ดูแล เสื้อหา หน้าผม รองเท้า อุปกรณ์ อาหารการกิน ที่พักที่นอน จิปาถะ ฯลฯ
ปีแรกลูกแพ้จนพ่อท้อ พาแข่งขันหมดเงิน+ทอง +เวลา ไปก็ใช่น้อย เกือบๆ 20 รายการ แพ้รวด ที่ได้รับกลับมาคือคำปลอบใจของผู้ปกครองคนอื่นๆที่บอกว่า อย่าไปคิดมาก แรกๆ ก็อย่างนี้ละครับ แพ้จนชิน ลูกผมก็เคยเป็น อีกหน่อยจะปรับตัวและพัฒนาการเล่นขึ้นมาและชนะได้เอง และอื่นๆ เช่น สู้ๆ เป็นต้น
มันก็แปลก ที่ผมไม่หยุด และพาลูกไปแข่ง ทั้งที่รู้ว่าโอกาสในการชนะแทบเป็นศูนย์ และก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ ลูกสองคน ตกรอบแรกทุกรายการ
ปัจจุบัน ผมและลูกๆ ยังไม่หยุด แม้จะมีเสียงเรียกร้องจากคนข้างๆ ของผม (ภรรยาผมเอง) ว่าให้หยุด และพาลูกไปสมัครเรียนพิเศษเสียก่อนที่จะสายเกินไป
ปัจจุบันผมสอนลูกเอง เสาร์อาทิตย์ และเรียนกับครูเทนนิสประจำจังหวัดลพบุรี จันทร์-ศุกร์ช่วง 1800-2000 ครูสอนดี และเก็บค่าเรียนไม่แพง ลูกมีความสุข และสนุกกับการเรียน มีบางวันที่ท้อ + เหนื่อย จากการเรียน บ้าง ธรรมดา แต่ส่วนใหญ่ กระตือรือร้น และมีพัฒนาการเล่นทีดีขึ้น ตามลำดับ (อย่างช้าๆ ไม่ใช่ก้าวกระโดด)
ปีนี้ลูกลงแข่งหลายรายการ เริ่มชนะ เพราะคนเก่งขยับรุ่นขึ้นไป ลูกมีพัฒนาการเล่นขึ้นมา สองปัจจัยหลักๆ เท่าที่ผมนึกออก 55+++
ล่าสุดตัวเล็กสุดของผมได้แชมป์แรกของเขา เป็นรายการพัฒนาฝีมือภาคกลาง รายการเล็กๆ สำหรับนักเทนนิสเยาวชนมือใหม่ในการพัฒนาการเล่นสู่ระดับสูงต่อไป รายการกระแสร์เทนนิสแคมป์ภาคกลางครั้งที่ 1 ครับ
ปัจจุบันลูกมีความสุขกับการเรียน การเล่นเทนนิส การฝึกซ้อม และการแข่งขัน สำหรับผม ยังมีกำลังใจที่ดี และจะสนับสนุนเขาทุกด้านต่อไปครับ
หากผู้ปกครองนักเทนนิส หรือผู้ฝึกสอนท่านใดต้องการแลกเปลี่ยน พูดคุย หรือสอบถามเกี่ยวกับ การเล่นเทนนิสของผมและลูกๆ สามารถแลกเปลี่ยน โดยการ Post คำถามหรือความคิดเห็นไว้ใน Post ด้วยความยินดียิ่งครับ

Comments

Popular posts from this blog

การเลือกไม้เทนนิสสำหรับเด็ก

พีทีที จูเนียร์แชมเปี้ยนชิพส์ ภาคกลาง 2011

ข้อดีและข้อเสียของไม้หน้าใหญ่ oversized